Wednesday, March 2, 2016

ประเทศที่น่าเศร้า

ผมตั้งชื่อหัวเรื่องบล็อกชิ้นนี้ของผมว่า 'ประเทศที่น่าเศร้า' ให้กับประเทศไทย ประเทศที่ผมเกิดแห่งนี้ ด้วยเหตุที่เป็นผลสืบเนื่องมาจากการเตรียมสอนหนังสือให้กับนักศึกษาหลักสูตรรัฐประศาสนศาสตร์ ชั้นปีที่ 4 รายวิชาสัมมนาฯ 
เมื่อพูดถึงประเทศไทย ประวัติศาสตร์การเมืองไทยหลังเปลี่ยนแปลงการปกครอง 2475 นับถึงปัจจุบันก็ผ่านกาลเวลาล่วงเข้า 84 ปีแล้ว เหลือเชื่อตรงนี้สถิติอันเลวร้ายบอกเราว่า:-
  • เราเป็นประเทศที่มีสถิติการทำรัฐประหารมากที่สุดในอาเซียน นับได้มากถึง 18 ครั้ง
  • เรื่่องรัฐประหารเรามีสถิติสูงมาเป็นอันดับที่ 4 ของโลก และเป็นตัวแทนหนึ่งเดียวที่มาจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ส่วนอันดับที่ 1 - 3 ประเทศประเทศในแอฟริกา น่าอายยิ่งนัก
  • รัฐประหารที่ประสบความสำเร็จในประเทศไทยเรามีมากถึง 12 ครั้ง ดูภาพด้านล่างนี้ประกอบเลยครับ

  •  ความเลวร้ายของการเมืองไทยมันเปรียบเหมือนกับวงจรอุบาทว์ (Vicious Circle Model of Thai Coup) ไม่ก้าวไปข้างหน้า แต่หมุนวนเป็นวงจร นั่นคือ
  • รัฐประหาร (Coup) --> การปกครองโดยเผด็จการทหาร (Military Rule) --> จัดทำรัฐธรรมนูญ (จะ 20 ฉบับเข้าไปแล้ว) (Constitution) --> ปล่อยให้มีการเลือกตั้งแบบหลอกๆ (Election) --> เกิดกระบวนการทางรัฐสภา (Parliamentary Process) --> แล้วก็มีความขัดแย้ง (Conflict) --> เกิดแกนนำและชนชั้นกลางที่ไม่เอาประชาธิปไตยเคลื่อนขบวนสร้างเงื่อนไขให้เกิดวิกฤตจนรัฐบาลจากการเลือกตั้งเป็นอัมพาต (Crisis) --> ทหารอ้างเงื่อนไขวิกฤตทำตัวเป็นพระเอกขี่ม้าขาวเข้าระงับวิกฤตโดยการรัฐประหาร (Coup)
         ถ้าหากนับถึงปัจจุบันก็หมุนวนเป็นวงจรอุบาทว์ได้ 12 รอบแล้ว (ดูภาพประกอบ)
  •  หากนำแนวคิดประชาธิปไตยแบบเสรี และประชาธิปไตยไร้เสรีมาอธิบายปรากฏการณ์ทางการเมืองแบบไทยๆ หากพิจารณาตามภาพด้านล่างนี้ประกอบ ก็พอจะอธิบายได้ดังนี้

  •  การเมืองไทยสมัยรัฐบาลทักษิณ เรียกได้ว่าเป็น ประชาธิปไตยไร้เสรี เพราะผู้นำมาจากการเลือกตั้ง เราถือว่า เป็นประชาธิปไตย แต่ที่บอกว่าไร้เสรี ก็เพราะรัฐบาลทักษิณบริหารเกินเลยจากคำว่า "รัฐบาลที่มีอำนาจจำกัด" (Limited Government) เห็นได้จากกรณีเหตุการณ์ตากใบ, กรณีสงครามปราบปรามยาเสพติด เส้นประชาธิปไตยจึงเป็นเส้นสีแดงออกไปทางประชาธิปไตยติดลบ แม้จะได้ชื่อว่ามาจากการเลือกตั้งก็ตาม
  • การเมืองไทยสมัยรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เป็นรัฐบาลจากการเลือกตั้งถือว่าเป็นประชาธิปไตย และมีเสรีเมื่อเปรียบกับสมัยทักษิณยังถือว่าดีกว่ามาก เส้นประชาธิปไตยเป็นเส้นสีเขียว จะออกไปทางเป็นประชาธิปไตยเชิงบวก แต่บริหารและเดินเกมส์การเมืองผิดพลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ประเด็นเรื่อง พรบ.นิรโทษกรรม แต่ยังไงก็ยังถือว่าเป็นประชาธิปไตยแบบเสรี เส้นสีเขียวก็จริง แต่อยู่ตรงโคนเส้น ไม่เหมือนกับประเทศประชาธิปไตยแบบก้าวหน้า (ประชาธิปไตยแบบเสรีเข้มข้นที่อยู่ตรงปลายเส้นสีเขียว) อย่างอังกฤษ อเมริกา ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น ฟินแลนด์ นอร์เวย์ เดนมาร์ก เป็นต้น
  • การเมืองไทยสมัยรัฐบาลสุรยุทธ์ และประยุทธ์ เป็นรัฐบาลแบบไม่เป็นประชาธิปไตยและไม่เสรี ชนิดถอยหลังเข้าคลองเข้าสู่วงจรอุบาทว์ทางการเมือง หาใช่วงจรสวรรค์ไม่ ประเทศนี้จึงน่าเศร้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเห็นตัวเลขสถิติการทำรัฐบาลโดยทหารที่มากถึง 12 ครั้งก็ยิ่งเศร้าใจ
  • ถามว่า แล้วแบบที่ไม่เป็นประชาธิปไตย แต่เป็นเสรีคือประเทศไหน? ตอบได้เลยว่า คือ ประเทศจีน จีนไม่ใช่ประเทศประชาธิปไตย แต่เปิดเสรีทางด้านเศรษฐกิจ (ไม่เสรีทางด้านการเมือง) เสรีทางด้านเศรษฐกิจของจีน เปรียบเสมือน 'นกอยู่ในกรง' เป็นเสรีภายใต้การกำกับของพรรคคอมมิวนิสต์ การขยายขอบเขตเสรีทางเศรษฐกิจ ก็คือ การขยายขอบเขตของกรง แต่จะไม่ทำลายกรง ไม่เหมือนกับประเทศอเมริกา หรือประเทศเสรีอื่นๆ
  • อนึ่ง หลักเกณฑ์ในการพิจารณาเรื่อง ประชาธิปไตย (Democracy) และเสรี (Liberal) นั้น พิจารณาได้ดังภาพด้านล้างนี้ประกอบก็จะเข้าใจได้ง่าย