ต้องยอมรับว่า การขับเคลื่อนของ "กปปส." ภายใต้การนำของ "พระสุเทพ เทือกสุบรรณ" มาราธอน 6 เดือน เป็นเหตุและปัจจัยสำคัญยิ่งที่ทำให้ "เครือข่ายทักษิณ" พังครืน และเป็นตัวจุดชนวนให้ "พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา" ผบ.ทบ. นำกำลังทหาร 3 เหล่าทัพออกมา "ปฏิวัติ-รัฐประหาร" ได้เป็นผลสำเร็จแบบง่ายดาย
"ม็อบ กปปส." ซึ่งว่ากันไปแล้ว ฐานกำลังหลักปฏิเสธไม่ได้ว่า ห้องเครื่องสำคัญคือ "คนปักษ์ใต้" ทั้ง 14 จังหวัด แต่ 3 เดือนแห่งการ "ปฏิวัติ" คนภาคใต้กลับไม่ได้รับอนิสงฆ์อะไรเลย นอกจาก "กำนันสุเทพ" ได้บวช เปลี่ยนสถานภาพใหม่ เป็น "พระสุเทพ ปภากโร" จากนั้นแล้วล้วน "ติดลบ"
ที่แลเห็นเป็นรูปธรรม จับต้องได้คือ ราคา "ยางพารา" พืชเศรษฐกิจหลักที่เปรียบประดุจกระดูกสันหลังของคนปักษ์ใต้ราคา เมื่อเดือนสิงหาคม 2556 ตกเหลือกิโลกรัมละ 80 บาท "ชาวใต้" มีการรวมตัวเคลื่อนไหวเรียกร้องให้รัฐบาลในขณะนั้นมีการประกันให้ในราคากิโลกรัมละ 120 บาท
เมื่อไม่ได้ดังข้อเรียกร้อง พากันปิดถนนทั้งขึ้น-ทั้งล่องที่อำเภอชะอวด จังหวัดนครศรีธรรมราช เกิด "ชะอวดโมเดล" และขยายพื้นที่มาปิดถนนหน้า "โค.ออป" จังหวัดสุราษฎร์ธานี กับประจวบคีรีขันธ์
บัดนี้ เดือนสิงหาคม พ.ศ. 2557 ราคายางพาราหล่นตุ๊บ อยู่ที่กิโลกรัมละ 50 บาท "คนใต้" มิมีใครกล้าเปิดประเด็นเรียกร้องให้ "คสช." ประกันราคายาง ทุกคนพากันกลัวกรงเล็บ "กฎอัยการศึก"
ขนาด "นักการเมือง" ที่ฝีปากจัดจ้าน สวนได้ทุกเม็ด พากันสวมบท "กบจำศีล" หายหัวไปหมด
คนใต้นอกจากจะไร้ความสุขกับราคายางตกแล้ว ข่าวคราว "เชิงลบ" ไหลออกมาไม่หยุด
ล่าสุด ภาพเจ้าหน้าที่กรมอุทยานฯ ผนึกกำลังกับทหาร-ตำรวจตระเวนชายแดน อาสาสมัครกว่าครึ่งพันเข้ารื้อถอนสิ่งปลูกสร้างที่รุกหาดนพรัตน์ เกาะพีพี พร้อมกับลุยโค่นยางพารากว่า 300 ไร่ราพณาสูร
ไม่นับ การยกกำลังไปเข้าจัดระเบียบอย่างเข้มงวดบริเวณชายหาดที่จังหวัดภูเก็ต-กระบี่
จรัญ พงษ์จีน, แหล่งข่าวไม่ขอเปิดเผย
_______________________________
แหล่งที่มาของข่าวล่าสุด
ที่นี่